Table of Contents

เสริมความปลอดภัยด้วย E Signatures และการปฏิบัติตามข้อกำหนดในธุรกรรมดิจิทัล

By Published On: April 9, 2025

Share This Story,

เสริมความปลอดภัยด้วย E Signatures

ในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบมีความสำคัญมากกว่าที่เคย โดยเฉพาะเมื่อทำธุรกรรมออนไลน์ ความต้องการลายเซ็นดิจิทัลที่ปลอดภัย, สามารถตรวจสอบได้, และมีผลผูกพันทางกฎหมาย ทำให้การใช้ เสริมความปลอดภัยด้วย E Signatures เป็นที่นิยมขึ้น ลายเซ็นดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ธุรกิจและบุคคลเซ็นเอกสาร โดยให้ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยกว่าการใช้ลายเซ็นแบบดั้งเดิมด้วยปากกาและกระดาษ แต่เสริมความปลอดภัยด้วย E Signatures ทำให้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นและช่วยให้การปฏิบัติตามข้อบังคับในการทำธุรกรรมดิจิทัลได้อย่างไร?

ในโพสต์บล็อกนี้ เราจะสำรวจบทบาทของเสริมความปลอดภัยด้วย E Signaturesในการรักษาความปลอดภัยของธุรกรรมดิจิทัล, วิธีที่พวกเขาช่วยให้ธุรกิจปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ, และทำไมแพลตฟอร์มเช่น Veracity.biz ถึงเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันลายเซ็นดิจิทัลที่เชื่อถือได้และปลอดภัย

ลายเซ็นดิจิทัลคืออะไร?

ก่อนที่จะเข้าสู่การอธิบายว่า เสริมความปลอดภัยด้วย E Signaturesทำให้ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อบังคับดีขึ้นได้อย่างไร, การเข้าใจลายเซ็นดิจิทัลนั้นสำคัญ ลายเซ็นดิจิทัล (E Signature) คือเวอร์ชันดิจิทัลของลายเซ็นมือที่ใช้เพื่อเซ็นเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจเป็นได้ตั้งแต่ภาพสแกนของลายเซ็นของคุณไปจนถึงรหัสดิจิทัลที่ไม่ซ้ำกัน หรือแม้แต่การยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือหรือการรู้จำใบหน้า

เป้าหมายหลักของลายเซ็นดิจิทัลคือการยืนยันตัวตนของผู้เซ็นว่าแท้จริง และเอกสารไม่ได้ถูกแก้ไขหลังจากที่ได้เซ็นแล้ว ซึ่งทำให้ลายเซ็นดิจิทัลมีผลผูกพันทางกฎหมายในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป และประเทศไทย ตราบใดที่ลายเซ็นเหล่านั้นตรงตามข้อกำหนดบางประการ

ลายเซ็นดิจิทัล vs ลายเซ็นแบบดั้งเดิม: การเปรียบเทียบ

เพื่อให้เข้าใจถึงข้อได้เปรียบของลายเซ็นดิจิทัล เรามาทำการเปรียบเทียบกับลายเซ็นแบบดั้งเดิมที่ใช้กระดาษกันดีกว่า โดยเราจะมาดูความแตกต่างที่สำคัญระหว่างทั้งสอง:

คุณสมบัติ ลายเซ็นดิจิทัล ลายเซ็นแบบดั้งเดิม
ความปลอดภัย ใช้การเข้ารหัสและวิธีการตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตนและรักษาความสมบูรณ์ของเอกสาร เสี่ยงต่อการปลอมแปลง เช่น การปลอมลายเซ็นหรือการแก้ไขเอกสาร
ความถูกต้องตามกฎหมาย มีผลผูกพันทางกฎหมายในหลายเขตอำนาจตามกฎหมายเช่น ESIGN, eIDAS และพระราชบัญญัติการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีผลผูกพันทางกฎหมายแต่ต้องการการมีตัวตนจริงและอาจมีการโต้แย้งได้ในบางกรณี
ประสิทธิภาพ รวดเร็วและสามารถทำได้จากที่ใดก็ได้ ลดการใช้กระดาษและเวลาในการดำเนินการด้วยมือ ต้องการลายเซ็นจริงและการแลกเปลี่ยนเอกสารจริง มักจะทำให้เกิดความล่าช้า
รอยตามข้อมูล (Audit Trail) มีรอยตามข้อมูลที่ละเอียดเกี่ยวกับว่าใครเซ็น, เมื่อไร, และมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง, ทำให้มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีบันทึกอัตโนมัติว่าเมื่อไหร่หรือที่ไหนที่เซ็น ทำให้การติดตามการเปลี่ยนแปลงทำได้ยาก
ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายต่ำโดยการยกเลิกการใช้กระดาษ, การพิมพ์, และการส่งไปรษณีย์ เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายในการพิมพ์, กระดาษ, การส่งไปรษณีย์, และกระบวนการด้วยมือ
ความสะดวก สามารถทำได้จากคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, หรือโทรศัพท์มือถือจากที่ใดก็ได้ ต้องการการมีตัวตนจริงและบางครั้งต้องใช้ขั้นตอนหลายขั้นตอน (การพิมพ์, การสแกน, การส่งไปรษณีย์)
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะลดการใช้กระดาษ ทำให้เกิดการสูญเสียกระดาษและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมสูงขึ้นเนื่องจากการจัดการทางกายภาพ

จากที่เห็น, ลายเซ็นดิจิทัลมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับลายเซ็นแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัย, ประสิทธิภาพ, และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการกำจัดการใช้เอกสารทางกายภาพและให้เครื่องมือการยืนยันตัวตนที่แข็งแกร่ง, ลายเซ็นดิจิทัลช่วยทำให้กระบวนการเซ็นเอกสารง่ายขึ้นในขณะที่เพิ่มความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อบังคับ

ลายเซ็นดิจิทัลและความปลอดภัย: วิธีที่พวกมันปกป้องธุรกรรมดิจิทัล

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของลายเซ็นดิจิทัลคือการเพิ่มชั้นความปลอดภัยที่พวกมันมอบให้กับธุรกรรมดิจิทัล ต่อไปนี้คือลักษณะของวิธีที่พวกมันเสริมสร้างความปลอดภัย:

1. การยืนยันตัวตน

ลายเซ็นดิจิทัลมีวิธีการหลายประเภทในการตรวจสอบตัวตนของผู้เซ็น, ทำให้มั่นใจได้ว่าเฉพาะบุคคลที่ตั้งใจไว้เท่านั้นที่จะสามารถเซ็นเอกสารได้ วิธีการที่ใช้ได้แก่ การยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย (2FA), รหัสผ่านใช้ครั้งเดียว (OTP), หรือการยืนยันตัวตนทางชีวมิติ เช่น ลายนิ้วมือหรือการรู้จำใบหน้า ที่ใช้เพื่อยืนยันตัวตนของผู้เซ็นก่อนที่พวกเขาจะสามารถเข้าถึงและเซ็นเอกสาร

โดยการใช้ระบบการยืนยันตัวตนที่แข็งแกร่ง แพลตฟอร์มเช่น Veracity.biz ทำให้มั่นใจว่าเอกสารที่ถูกเซ็นทุกฉบับได้ถูกเซ็นโดยบุคคลที่ถูกต้อง ซึ่งจะลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงตัวตนและการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

2. การเข้ารหัสข้อมูล

เมื่อเอกสารถูกเซ็นทางอิเล็กทรอนิกส์ ลายเซ็นดิจิทัลมักจะถูกเข้ารหัส ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าเอกสารและลายเซ็นจะได้รับการปกป้องจากการถูกแก้ไข การเข้ารหัสสร้างลิงก์ที่เข้ารหัสระหว่างผู้เซ็นและเอกสาร ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะสามารถเปลี่ยนแปลงเอกสารโดยที่ไม่ได้รับการตรวจจับ

กระบวนการเข้ารหัสนี้ช่วยให้ความสมบูรณ์ของธุรกรรมดิจิทัลได้รับการรักษา และให้การป้องกันเพิ่มเติมจากภัยคุกคามทางไซเบอร์

3. เทคโนโลยีการตรวจจับการปลอมแปลง

โซลูชันลายเซ็นดิจิทัลส่วนใหญ่ รวมถึง Veracity.biz ใช้เทคโนโลยีการตรวจจับการปลอมแปลงเพื่อรับประกันความสมบูรณ์ของเอกสารที่เซ็นแล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับเอกสารที่เซ็นแล้ว เทคโนโลยีการตรวจจับการปลอมแปลงจะตรวจพบการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และแจ้งเตือนฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คุณสมบัตินี้มีความสำคัญในการป้องกันการฉ้อโกงและรับประกันว่าเอกสารที่เซ็นแล้วยังคงมีผลทางกฎหมาย

4. รอยตามข้อมูล (Audit Trails)

รอยตามข้อมูลเป็นคุณสมบัติสำคัญของลายเซ็นดิจิทัล และมีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัย รอยตามข้อมูลจะบันทึกการกระทำทุกขั้นตอนที่เกิดขึ้นกับเอกสารที่เซ็นแล้ว รวมถึงว่าใครเป็นผู้เซ็น, เมื่อไรที่มันถูกเซ็น, และการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากการเซ็น ข้อมูลนี้จะถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันความถูกต้องของเอกสารในกรณีที่มีข้อพิพาท

แพลตฟอร์มลายเซ็นดิจิทัลเช่น Veracity.biz ให้บริการรอยตามข้อมูลที่ครอบคลุม ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าทุกธุรกรรมจะได้รับการบันทึกและสามารถติดตามได้อย่างครบถ้วน

ลายเซ็นดิจิทัลและการปฏิบัติตามข้อกำหนด: การปฏิบัติตามมาตรฐานกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ

นอกจากความปลอดภัยแล้ว การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ ยังเป็นอีกแง่มุมสำคัญที่ลายเซ็นดิจิทัลช่วยให้ธุรกิจสามารถบรรลุได้ มาดูกันว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร:

1. การปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย

ลายเซ็นดิจิทัลได้รับการยอมรับว่าเป็นลายเซ็นที่มีผลผูกพันตามกฎหมายในหลายเขตอำนาจศาลทั่วโลก รวมถึงภายใต้กฎหมายเช่น ESIGN Act ในสหรัฐอเมริกา และระเบียบ eIDAS ในสหภาพยุโรป กฎหมายเหล่านี้ได้กำหนดข้อกำหนดเฉพาะสำหรับลายเซ็นดิจิทัลให้ถือว่าใช้ได้ตามกฎหมาย รวมถึงวิธีการในการตรวจสอบตัวตนของผู้เซ็นและการรับรองความสมบูรณ์ของเอกสาร

โดยการใช้ลายเซ็นดิจิทัล ธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าธุรกรรมดิจิทัลของพวกเขาปฏิบัติตามกรอบกฎหมายเหล่านี้ จึงหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น

2. การปฏิบัติตามข้อกำหนดการคุ้มครองข้อมูลทั่วโลก

เนื่องจากความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจต้องมั่นใจว่าเอกสารที่พวกเขาจัดการปฏิบัติตามข้อกำหนดการคุ้มครองข้อมูลต่างๆ เช่น กฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR) ในสหภาพยุโรป หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ในประเทศไทย

ลายเซ็นดิจิทัลช่วยให้การปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านี้ได้ โดยให้วิธีการที่ปลอดภัยในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อรวมเข้ากับแพลตฟอร์มเช่น Veracity.biz ธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดได้รับการปกป้องและจัดการตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด

3. การทำให้กระบวนการปฏิบัติตามข้อกำหนดอัตโนมัติ

หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการรับประกันการปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างต่อเนื่องคือการทำให้เป็นอัตโนมัติ ลายเซ็นดิจิทัลช่วยให้ธุรกิจสามารถทำให้กระบวนการปฏิบัติตามข้อกำหนดเป็นอัตโนมัติ ตั้งแต่การรวบรวมความยินยอมที่จำเป็นไปจนถึงการติดตามและเก็บเอกสารที่เซ็นแล้ว

ตัวอย่างเช่น Veracity.biz เสนอการทำงานอัตโนมัติที่นำทางผู้ใช้ผ่านกระบวนการเซ็น ซึ่งทำให้มั่นใจว่าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องมีการตรวจสอบด้วยมือ วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากข้อผิดพลาดของมนุษย์และทำให้การปฏิบัติตามข้อกำหนดง่ายขึ้นในระยะยาว

คุณสมบัติของ Veracity.biz: วิธีที่ช่วยเสริมความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของลายเซ็นดิจิทัล

benefits of veracity

คุณสมบัติของ Veracity.biz: วิธีที่ช่วยเสริมความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของลายเซ็นดิจิทัล

Veracity.biz เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโซลูชันลายเซ็นดิจิทัล โดยให้แพลตฟอร์มที่ไม่เพียงเสริมความปลอดภัย แต่ยังมั่นใจได้ในการปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วโลก นี่คือเหตุผลที่ Veracity.biz เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับธุรกิจ:

1. แพลตฟอร์มลายเซ็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ

Veracity.biz ให้บริการแพลตฟอร์มลายเซ็นดิจิทัลที่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้กระบวนการเซ็นเอกสารง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารกระดาษ แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้การเซ็นเอกสารมีความปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อกำหนด และมีประสิทธิภาพจากทุกที่

2. การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย

Veracity.biz ปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ รวมถึงพระราชบัญญัติการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETA) มาตรา 9, มาตรา 26 และมาตรา 28 ซึ่งทำให้มั่นใจว่า ลายเซ็นดิจิทัลทั้งหมดเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และช่วยให้ธุรกิจมั่นใจได้ว่าธุรกรรมของพวกเขาปฏิบัติตามมาตรฐานของประเทศ

3. การเชื่อมต่อ API บนเว็บ

Veracity.biz เสนอ Web API สำหรับการเชื่อมต่อที่ราบรื่นกับระบบ ERP และกระบวนการทำงานที่มีอยู่ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่า ระบบปัจจุบันของคุณได้รับการเสริมความสามารถในการเซ็นดิจิทัลที่ปลอดภัย โดยไม่ต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงระบบหลัก

4. โมดูลลายเซ็นดิจิทัลสำหรับ PDF

Veracity.biz ให้บริการระบบโมดูลลายเซ็นดิจิทัลสำหรับการเซ็นเอกสาร PDF และส่งให้กับผู้ซื้อ ฟีเจอร์นี้ช่วยทำให้กระบวนการเซ็นเอกสารง่ายขึ้นและช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งเอกสารที่เซ็นแล้วไปยังลูกค้าหรือผู้ซื้อได้อย่างปลอดภัย

5. โมดูลเก็บเอกสารและการจัดการใบรับรองหลายใบ

Veracity.biz ช่วยให้ธุรกิจสามารถเก็บเอกสารที่เซ็นแล้วได้อย่างปลอดภัยด้วยระบบโมดูลเก็บเอกสารที่แข็งแกร่ง แพลตฟอร์มนี้ยังรองรับการจัดการใบรับรองหลายใบ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการใบรับรองที่แตกต่างกันสำหรับผู้ใช้หรือแผนกต่างๆ

6. ระบบค้นหาและประวัติกระบวนการ

Veracity.biz เสนอระบบค้นหาและประวัติกระบวนการที่ทรงพลัง ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถค้นหาเอกสารที่เซ็นแล้วได้อย่างรวดเร็ว และติดตามประวัติของธุรกรรมได้ ฟีเจอร์นี้ทำให้การจัดการเอกสารมีประสิทธิภาพและมั่นใจได้ในความโปร่งใสของทุกธุรกรรม

7. การรองรับระบบหลายผู้เช่า (Multi-Tenant)

Veracity.biz รองรับระบบหลายผู้เช่าที่ไม่จำกัด ช่วยให้ธุรกิจที่มีหลายแผนกหรือแพลตฟอร์มที่ใช้ติดต่อกับลูกค้าสามารถจัดการลายเซ็นดิจิทัลได้จากผู้ใช้หรือผู้เช่าหลายๆ คนในวิธีที่ปลอดภัยและมีระเบียบ

8. การเซ็นลายเซ็นโดยใช้รหัสผ่าน

Veracity.biz รองรับการใช้รหัสผ่านเพื่อเพิ่มความปลอดภัยระหว่างกระบวนการเซ็นลายเซ็น ฟีเจอร์นี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเฉพาะผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถเซ็นเอกสารได้ ซึ่งช่วยเสริมความปลอดภัยของธุรกรรม

9. ระบบสิทธิการเข้าถึงสำหรับผู้เช่าคนเดียวและหลายผู้เช่า

Veracity.biz มาพร้อมกับระบบสิทธิการเข้าถึงที่ยืดหยุ่น ซึ่งสามารถปรับแต่งได้สำหรับทั้งการตั้งค่าผู้เช่าคนเดียวและหลายผู้เช่า ระบบนี้ช่วยให้มั่นใจว่า ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงเอกสารและข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น เพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง

10. การรองรับการติดตั้งฐานโค้ดและระบบที่ใช้ Docker

Veracity.biz รองรับทั้งสถาปัตยกรรมแบบมอนอลิธและไมโครเซอร์วิส ให้ความยืดหยุ่นแก่ธุรกิจที่ชอบการติดตั้งฐานโค้ดหรือระบบที่ใช้ Docker ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถรวมลายเซ็นดิจิทัลเข้ากับสถาปัตยกรรมระบบที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น

แผนการกำหนดราคา Veracity.biz

veracity pricing

Veracity.biz เสนอโครงการราคาที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของธุรกิจที่แตกต่างกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก บริษัทที่กำลังเติบโต หรือองค์กรขนาดใหญ่ Veracity.biz มีแผนที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ด้านล่างนี้คือภาพรวมของแผนราคา:

แผนการ Basic Standard Enterprise
คุณสมบัติ – ลายเซ็นดิจิทัล – เลือกประเภทของลายเซ็นดิจิทัล – เลือกประเภทของลายเซ็นดิจิทัล
– ใช้งานง่าย ไม่ต้องบำรุงรักษา – เหมาะสำหรับบริษัทที่มีผู้บริหารหลายคน – เหมาะสำหรับบริษัทที่มีผู้บริหารหลายคน
เหมาะสำหรับ ผู้บริหารเพียงคนเดียว บริษัทที่มีผู้บริหารหลายคน องค์กรใหญ่ที่มีผู้ใช้หลายคน
เอกสาร ไม่จำกัด ไม่จำกัด ไม่จำกัด
คุณสมบัติเพิ่มเติม ทดลองฟรี – สร้างลำดับลายเซ็นดิจิทัลของคุณเอง – สร้างลำดับลายเซ็นดิจิทัลของคุณเอง
– ระบบเมลส่งอัตโนมัติไปยังผู้รับ – ระบบเมลส่งอัตโนมัติไปยังผู้รับ
– ทดลองฟรี – เชื่อมต่อกับระบบ workflow (เช่น Power Automate)
– ผู้ใช้ไม่จำกัด
– เชื่อมต่อกับระบบแอปพลิเคชันอื่น ๆ ผ่าน API
– ขอใบเสนอราคา
ราคา ทดลองฟรี ทดลองฟรี ราคาตามที่กำหนด

สรุป

การใช้ลายเซ็นดิจิทัล (E Signatures) กำลังกลายเป็นแนวปฏิบัติที่ได้รับความนิยมในธุรกรรมดิจิทัล โดยให้ธุรกิจสามารถจัดการเอกสารได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และปฏิบัติตามข้อกำหนด ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแกร่งเช่น การเข้ารหัสเทคโนโลยี, เทคโนโลยีตรวจจับการเปลี่ยนแปลง, และการทำงานอัตโนมัติในการปฏิบัติตามข้อกำหนด ลายเซ็นดิจิทัลกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของธุรกิจในโลกดิจิทัล

ด้วยการที่ธุรกิจต่างๆ ดำเนินการในโลกดิจิทัลมากขึ้น ลายเซ็นดิจิทัลได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในการทำธุรกรรมที่ปลอดภัยและปฏิบัติตามข้อกำหนด โซลูชันเช่น Veracity.biz ให้เครื่องมือที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการจัดการลายเซ็นดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การเข้ารหัสที่ปลอดภัยไปจนถึงการเชื่อมต่อที่ราบรื่นกับระบบอื่นๆ เช่น Seed และ Optimistic การใช้ลายเซ็นดิจิทัลช่วยให้ธุรกิจเสริมความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้โดยรวม ค้นพบวิธีที่ Jarviz, Seed, Optimistic และ ChatFramework สามารถเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการธุรกิจและการทำงานอัตโนมัติของคุณได้มากยิ่งขึ้น

แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีของ Microsoft และวิธีการใช้ให้มีประสิทธิภาพอ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลและการทำงานอัตโนมัติของกระบวนการธุรกิจ เยี่ยมชม Veracity และค้นพบวิธีที่สามารถช่วยให้กระบวนการดำเนินงานของธุรกิจของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

พร้อมที่จะทำให้ธุรกรรมดิจิทัลของคุณปลอดภัยด้วยลายเซ็นดิจิทัลแล้วหรือยัง? เริ่มทดลองฟรีกับ Veracity.biz วันนี้และสัมผัสประสบการณ์การใช้โซลูชันลายเซ็นดิจิทัลที่ราบรื่น ปฏิบัติตามข้อกำหนด และปลอดภัย เริ่มต้นตอนนี้!

บทความอื่นๆ

สำรวจหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูล:

โปรโมชั่นสินค้าอื่นๆ

สำหรับการจัดการความรู้หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ แปลว่าความ จริง ดูผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่นี่:

Frequently Asked Questions (FAQ)

E Signature (ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์) คือ ลายเซ็นดิจิทัลที่ใช้ในการเซ็นเอกสารหรือข้อตกลงอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถือเป็นลายเซ็นที่มีผลทางกฎหมายและสอดคล้องกับข้อบังคับต่างๆ เช่น พระราชบัญญัติการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETA)

Veracity.biz รับรองความปลอดภัยของลายเซ็นดิจิทัลของคุณผ่านการเข้ารหัส การเก็บใบรับรอง และบันทึกประวัติ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ช่วยรับประกันว่าเอกสารที่เซ็นแล้วจะปลอดภัยและไม่สามารถดัดแปลงได้

 

ใช่, E Signatures ได้รับการยอมรับทางกฎหมายในหลายประเทศและสอดคล้องกับกฎหมายการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศต่างๆ ซึ่งหมายความว่ามันมีผลทางกฎหมายเทียบเท่ากับลายเซ็นแบบเขียนด้วยมือ

ใช่, Veracity.biz มี Web API ที่ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Seed, Optimistic, และ Jarviz ทำให้กระบวนการทำงานของคุณสามารถเชื่อมโยงและทำงานได้อย่างราบรื่นในหลายระบบ

Veracity.biz มีแผนราคา 3 แบบ: Basic, Standard, และ Enterprise แผน Basic เหมาะสำหรับการใช้งานส่วนบุคคล ส่วนแผน Standard และ Enterprise มีคุณสมบัติขั้นสูง เช่น รองรับการใช้หลายผู้เช่า การทำงานอัตโนมัติ และการรองรับผู้ใช้ไม่จำกัด คุณสามารถเริ่มใช้งานฟรีได้ก่อน

Leave A Comment

By Published On: April 9, 2025