e signature กับ digital signature ต่างกันยังไง
Share This Story,

ในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ธุรกิจและบุคคลทั่วไปต่างหันมาใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ในการลงนามเอกสารมากขึ้น วิธีการเหล่านี้รวมถึง e-signature และ digital signature ซึ่งมักถูกใช้แทนกันได้ อย่างไรก็ตาม การเข้าใจ e signature กับ digital signature ต่างกันยังไง อย่างถ่องแท้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเรื่องการลงนามเอกสาร โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับข้อกำหนดด้านกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างระหว่างแนวคิดทั้งสองอย่างละเอียด พร้อมทั้งสำรวจคุณสมบัติหลัก กรณีการใช้งาน และยกตัวอย่างจากสถานการณ์จริง รวมถึงข้อมูลจาก Veracity — ผู้ให้บริการลายเซ็นต์ดิจิทัลชั้นนำในประเทศไทย สำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเอกสาร แพลตฟอร์มอย่าง Jarviz, Seed, และ Optimistic มีโซลูชันเสริมที่สามารถเชื่อมต่อและจัดการลายเซ็นต์อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลายเซ็นต์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Signature) คืออะไร?
E-signature หรือ ลายเซ็นต์อิเล็กทรอนิกส์ คือสัญลักษณ์หรือกระบวนการใด ๆ ที่แนบมากับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดงถึงความตั้งใจของบุคคลในการตกลงกับเนื้อหาในเอกสารนั้น ลายเซ็นต์อิเล็กทรอนิกส์มักถูกใช้ในการลงนามสัญญา ข้อตกลง และแบบฟอร์มต่าง ๆ ทางออนไลน์ โดยสามารถมีรูปแบบได้หลายแบบ เช่น:
-
พิมพ์ชื่อท้ายเอกสาร
-
สแกนภาพลายเซ็นต์จริง
-
คลิกปุ่ม “ยอมรับ” หรือเช็คบ็อกซ์
-
ใช้ปากกาสไตลัสหรือปลายนิ้วเซ็นผ่านหน้าจอสัมผัส
E-signature ได้รับการยอมรับในหลายประเทศและสามารถมีผลทางกฎหมาย ขึ้นอยู่กับเขตอำนาจศาลและลักษณะของเอกสาร เหมาะสำหรับธุรกรรมที่มีความเสี่ยงต่ำซึ่งให้ความสำคัญกับความรวดเร็วและความสะดวก
โดยทั่วไปแล้ว e-signature ใช้งานง่ายกว่าและมีต้นทุนที่ต่ำกว่า digital signature จึงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดขั้นตอนการทำงานของเอกสาร และสำหรับผู้ที่ต้องการผนวกลายเซ็นต์เข้ากับระบบภายใน ChatFramework เป็นโซลูชันที่สามารถช่วยให้การสื่อสารระหว่างระบบต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น
ลายเซ็นต์ดิจิทัล (Digital Signature) คืออะไร?
Digital signature เป็นรูปแบบเฉพาะของ e-signature ที่ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสเพื่อรับรองความถูกต้องและความสมบูรณ์ของเอกสารที่ลงนาม โดยใช้คู่กุญแจเข้ารหัสแบบสาธารณะและส่วนตัว (Public Key และ Private Key) ในการเข้ารหัสและถอดรหัสเอกสาร กุญแจส่วนตัวจะใช้ในการลงนามเอกสาร ส่วนกุญแจสาธารณะจะใช้ในการตรวจสอบลายเซ็นต์นั้น
Digital signature มีความปลอดภัยสูงกว่า e-signature มาก เนื่องจากสามารถพิสูจน์ได้ทั้งตัวตนของผู้ลงนามและความถูกต้องของเอกสาร หากมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาใด ๆ หลังจากลงนามแล้ว ลายเซ็นต์ดิจิทัลจะไม่ตรงกับเอกสาร และสามารถตรวจสอบได้ทันที
จึงเหมาะสำหรับธุรกรรมที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น สัญญาทางกฎหมาย การยื่นเอกสารต่อรัฐบาล หรือเอกสารทางการเงิน ที่ต้องการความถูกต้องและความน่าเชื่อถือสูงสุด
ความแตกต่างหลักระหว่าง E-Signature และ Digital Signature
เพื่อให้คุณเข้าใจ What’s the Difference Between an E-Signature and a Digital Signature? ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ต่อไปนี้คือการเปรียบเทียบรายละเอียดของทั้งสองประเภท:
รายการเปรียบเทียบ | E-Signature | Digital Signature |
---|---|---|
การใช้งานทั่วไป | เอกสารทั่วไป, แบบฟอร์ม, ข้อตกลงง่าย ๆ | เอกสารสำคัญ เช่น สัญญาทางกฎหมาย และเอกสารการเงิน |
ความปลอดภัย | ปานกลาง | สูงมาก ด้วยการเข้ารหัสแบบ PKI |
การตรวจสอบตัวตนผู้ลงนาม | ไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้แน่นอน | สามารถตรวจสอบและยืนยันตัวตนได้ชัดเจน |
การตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูล | ไม่สามารถตรวจจับการแก้ไขหลังลงนามได้ง่าย | ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงเอกสารหลังจากลงนามได้ทันที |
การยอมรับทางกฎหมาย | ขึ้นอยู่กับกฎหมายแต่ละประเทศ | ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและปลอดภัยในระดับสากล |
ต้นทุนและการใช้งาน | ต้นทุนต่ำและใช้งานง่าย | ต้นทุนสูงกว่า แต่ให้ความปลอดภัยและความมั่นใจมากกว่า |
ประโยชน์ของลายเซ็นดิจิทัลกับ Veracity
ในประเทศไทย Veracity เป็นผู้นำด้านบริการลายเซ็นต์ดิจิทัล โดยให้บริการโซลูชันที่ปลอดภัยและเป็นไปตามกฎหมายสำหรับการลงนามเอกสารทางธุรกิจ แพลตฟอร์มของ Veracity รองรับทั้ง e-signature และ digital signature เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการของตนได้อย่างยืดหยุ่น
ต่อไปนี้คือประโยชน์ที่โดดเด่นของการใช้แพลตฟอร์มลายเซ็นต์ดิจิทัลของ Veracity:
- ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น: ลายเซ็นต์ดิจิทัลของ Veracity ใช้การเข้ารหัส เพื่อให้มั่นใจว่าเอกสารที่ลงนามแล้วจะไม่สามารถถูกแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้หลังจากลงนาม เสริมความปลอดภัยให้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องจัดการเอกสารที่มีความลับหรือข้อมูลสำคัญ
- มีผลผูกพันทางกฎหมาย: ลายเซ็นต์ดิจิทัลของ Veracity เป็นไปตามพระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย (ETA) ซึ่งรับรองว่าเอกสารที่ลงนามมีผลผูกพันทางกฎหมายตามที่หน่วยงานราชการไทยยอมรับ
- การเชื่อมต่อที่ง่ายดาย: แพลตฟอร์มของ Veracity มี API สำหรับให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อระบบลายเซ็นต์ดิจิทัลเข้ากับกระบวนการทำงานหรือแอปพลิเคชันที่ใช้อยู่แล้วได้อย่างราบรื่น การเชื่อมต่อเช่นนี้ช่วยให้กระบวนการลงนามเอกสารเป็นไปโดยอัตโนมัติ ลดระยะเวลาและข้อผิดพลาดจากมนุษย์ ทั้งนี้ เครื่องมืออย่าง Seed ยังสามารถเสริมความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบต่าง ๆ ได้อีกด้วย
- รองรับหลายองค์กร: Veracity รองรับการใช้งานแบบหลายผู้เช่า (multi-tenant) ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดใหญ่
- คุณสมบัติในการจัดการเอกสาร: แพลตฟอร์มมีฟังก์ชันในการจัดเก็บเอกสาร การติดตามเวอร์ชัน และการจัดเก็บแบบปลอดภัย ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการเอกสารที่ลงนามแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติ Veracity
แพลตฟอร์มของ Veracity ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจที่มองหาโซลูชันลายเซ็นต์ดิจิทัลที่ครบวงจรและปลอดภัย โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:
- แพลตฟอร์มลายเซ็นต์ดิจิทัลแบบครบวงจร: Veracity มอบโซลูชันตั้งแต่ต้นจนจบสำหรับการใช้งานลายเซ็นต์ดิจิทัล มอบประสบการณ์การลงนามที่ราบรื่นสำหรับธุรกิจทุกขนาด
- รองรับตามกฎหมาย: Veracity ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETA) มาตรา 9, มาตรา 26 และมาตรา 28 ทำให้เอกสารที่ลงนามผ่านแพลตฟอร์มนี้ได้รับการยอมรับทางกฎหมายในประเทศไทย
- Web API สำหรับการเชื่อมต่อ ERP: Veracity มี Web API ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบ ERP หรือเวิร์กโฟลว์ที่ใช้อยู่ เพื่อให้กระบวนการลงนามเอกสารมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- โมดูลลายเซ็นต์ดิจิทัลสำหรับ PDF: ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งเอกสารที่ลงนามแล้วในรูปแบบ PDF ให้กับผู้ซื้อได้อย่างปลอดภัย
- ระบบจัดเก็บใบรับรอง: Veracity มีระบบจัดเก็บใบรับรองที่ปลอดภัย รองรับการใช้งานใบรับรองหลายประเภท เพื่อความมั่นใจว่าเอกสารจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย
- โมดูลค้นหาและประวัติการใช้งาน: สามารถค้นหาเอกสารที่ลงนามแล้วได้อย่างสะดวก พร้อมดูประวัติการดำเนินการอย่างละเอียด เพื่อรองรับการตรวจสอบภายหลัง
- รองรับระบบ Multi-Tenant: Veracity รองรับการใช้งานแบบหลายองค์กรแบบไม่จำกัด ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการผู้ใช้และองค์กรต่าง ๆ ได้จากแพลตฟอร์มเดียว
- การป้องกันด้วยรหัสผ่าน: เอกสารสามารถลงนามด้วยการยืนยันรหัสผ่าน เพื่อเพิ่มชั้นความปลอดภัยอีกระดับ
- ระบบกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง: Veracity อนุญาตให้ธุรกิจตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึงสำหรับผู้ใช้ทั้งในระบบ Single-Tenant และ Multi-Tenant ได้อย่างยืดหยุ่น
- ความยืดหยุ่นในการติดตั้ง: Veracity รองรับสถาปัตยกรรมแบบ Monolith และ Microservice และสามารถติดตั้งผ่านระบบ Docker ได้ รองรับการขยายระบบอย่างง่ายดาย
บริการของ Veracity
Veracity ไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการเทคโนโลยีลายเซ็นต์ดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังให้บริการเสริมแบบครบวงจรเพื่อยกระดับการจัดการเอกสารและกระบวนการลงนามของคุณ โดยรวมถึง:
- โซลูชันไร้กระดาษ (Paperless): Veracity ให้บริการด้านลายเซ็นต์ดิจิทัล เพื่อช่วยให้ธุรกิจก้าวสู่การทำงานแบบไร้กระดาษ พร้อมการออกแบบเอกสาร สร้างแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ อัตโนมัติกระบวนการ และประทับตราดิจิทัลในเอกสาร PDF เพื่อป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล
- โซลูชันเฉพาะสำหรับเอกสารแต่ละประเภท: Veracity นำเสนอการปรับใช้งานตามประเภทของเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นเอกสารภายในองค์กร เอกสารบัญชี หรือสัญญา พร้อมการตั้งค่าที่ปรับได้ตามลักษณะของแต่ละเอกสาร
- ความปลอดภัยของเอกสาร: แพลตฟอร์ม Veracity รับประกันว่าเอกสารที่ลงนามแล้วจะถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย และเป็นไปตามมาตรฐาน PDPA (พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ที่ผ่านการรับรอง ให้ความมั่นใจในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
- การจัดการและติดตามเอกสาร: Veracity มีระบบจัดเก็บ ค้นหา และบริหารเอกสารอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงระบบติดตามการเข้าถึงเอกสารแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยให้ผู้ดูแลระบบบริหารจัดการได้สะดวกยิ่งขึ้น
กรณีการใช้งานของลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (E-Signature) และลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature)
ทั้งลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์และลายเซ็นดิจิทัลต่างก็มีบทบาทสำคัญในกระบวนการดำเนินธุรกิจสมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้อย่างเหมาะสมในแต่ละกรณีจะช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ควรใช้ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (E-Signature) สำหรับ:
-
เอกสารที่ไม่เป็นความลับสูง: เช่น สัญญาทั่วไป แบบฟอร์มฝ่ายบุคคล หรือข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูล (NDA)
-
เอกสารที่ต้องการความรวดเร็ว: เช่น ข้อตกลงกับลูกค้า หรือการอนุมัติภายในองค์กร
-
การใช้งานที่คุ้มค่าและต้นทุนต่ำ: เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการวิธีการลงนามเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานง่ายและประหยัด
ควรใช้ลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) สำหรับ:
-
ธุรกรรมที่มีความสำคัญสูง: เช่น เอกสารราชการ สัญญาทางกฎหมาย หรือเอกสารทางการเงิน
-
ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน: เมื่อต้องการความมั่นใจในความถูกต้องของเอกสารและการยืนยันตัวตนของผู้ลงนาม
-
อุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล: ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETA)
Veracity ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการลงนามเอกสารของคุณอย่างไร
Veracity มอบแพลตฟอร์มที่มั่นคงและครบวงจรสำหรับการจัดการทั้งลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์และลายเซ็นดิจิทัล โดยการเลือกใช้ Veracity ธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าเอกสารของตนจะถูกลงนามอย่างปลอดภัย มีผลทางกฎหมาย และสอดคล้องกับกฎหมายในประเทศ
คุณสมบัติเพิ่มเติมที่ Veracity นำเสนอ ได้แก่:
-
การเชื่อมต่อผ่าน API: API ของ Veracity ช่วยให้ธุรกิจสามารถฝังฟังก์ชันลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์และลายเซ็นดิจิทัลเข้าในแอปพลิเคชันเว็บของตนเอง เพื่อจัดการเอกสารได้อย่างราบรื่น
-
รองรับการใช้งานผ่านมือถือ: แพลตฟอร์มของ Veracity ออกแบบให้ใช้งานง่ายบนมือถือ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลงนามได้ทุกที่ ทุกเวลา
-
ระบบติดตามประวัติ (Audit Trail): Veracity บันทึกรายละเอียดประวัติการลงนามของเอกสารไว้อย่างครบถ้วน เช่น ใครลงนาม เมื่อใด และมีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการลงนาม
บทสรุป
โดยสรุป การเข้าใจความแตกต่างระหว่างลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์กับลายเซ็นดิจิทัลจะช่วยให้คุณสามารถเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้อย่างแม่นยำ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เหมาะสำหรับงานทั่วไปที่ต้องการความรวดเร็วและประหยัด ขณะที่ลายเซ็นดิจิทัลให้ความปลอดภัยสูงและรองรับข้อกำหนดทางกฎหมาย เหมาะสำหรับธุรกรรมสำคัญหรืออุตสาหกรรมที่ถูกควบคุม
ด้วยการเลือกวิธีการที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์หรือลายเซ็นดิจิทัล คุณสามารถปรับปรุงกระบวนการจัดการเอกสารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มั่นใจในความปลอดภัย และคงไว้ซึ่งความถูกต้องตามกฎหมาย หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มลายเซ็นดิจิทัลที่ไว้วางใจได้ Veracity คือโซลูชันที่ให้ทั้งความยืดหยุ่นและความปลอดภัย ตอบโจทย์ธุรกิจของคุณได้อย่างแท้จริง
โซลูชันลายเซ็นดิจิทัลของ Veracity – เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแพลตฟอร์มลายเซ็นดิจิทัลของ Veracity และวิธีที่สามารถช่วยปกป้องความปลอดภัยของเอกสารของคุณ
พร้อมหรือยังที่จะรักษาความปลอดภัยให้เอกสารของคุณด้วยเทคโนโลยีลายเซ็นดิจิทัลที่ดีที่สุด? สำรวจโซลูชันลายเซ็นดิจิทัลของ Veracity วันนี้ เพื่อยกระดับกระบวนการจัดการเอกสารของคุณให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเป็นไปตามข้อกฎหมาย เริ่มต้นได้เลยตอนนี้ แล้วเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจของคุณอย่างสิ้นเชิง!
บทความอื่นๆ
- web application การลงนาม คืออะไร และทำงานอย่างไร?
- ลายเซ็นดิจิทัลกลายเป็นเรื่องง่ายด้วย web application เซ็นซื้อ
- การสร้าง สร้างลายเซ็นดิจิตอล ด้วยแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์
- ลายมือชื่อดิจิตอล กำลังก้าวเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานและประหยัดเวลา
- เสริมความปลอดภัยด้วย E Signatures และการปฏิบัติตามข้อกำหนดในธุรกรรมดิจิทัล
- ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและการเงินของการใช้ paperless ในธุรกิจ
Technological Partner Blog Posts
สำรวจหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูล:
- Google Gemini Live: Real-Time AI Assistance for Android
- Antivirus and Firewall: Differences and Why you need?
- Introducing the Copilot Merchant Program
- YouTube Publishes New Insights for Virtual Influencers
- Strategic Chatbot Adoption: How Enterprises Are Transforming Engagement
- Assistant Chatbotเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูลด้วย OCR Software ที่แม่นยำสูง ในปี 2025
- Antivirus ตัวไหนดีที่สุดในปี 2025?
โปรโมชั่นสินค้าอื่นๆ
สำหรับการจัดการความรู้หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ แปลว่าความ จริง ดูผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่นี่: